กรมธนารักษ์มีหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบราคาที่ดินอย่างไรให้แม่นยำ?และค่าธรรมเนียมที่นับรวมในการประเมินราคาที่ดินรวมทั้งการประเมินที่ดินทั่วกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล จังหวัดในภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคใต้

การเลื่อนประกาศใช้ราคาประเมินที่ดิน ปี 2565

จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กรมธนารักษ์ ได้ประกาศเลื่อนหลักเกณฑ์การใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ 2566 ออกไป ซึ่งหมายความว่ากฎสำหรับการใช้ราคาใหม่จะเหมือนกับกฎของปี 2559-2563 กรมธนารักษ์ตัดสินใจแบ่งเบารายจ่ายในช่วงที่เศรษฐกิจยังฝืดเคือง โดยประเมินราคาที่ดินให้คงราคาเดิม ทั้งนี้ เพื่อลดภาระภาษีให้กับประชาชนผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ทรัพย์สินหรือสิ่งปลูกสร้างอยู่ภายใต้การตีราคาที่ดินของกรมธนารักษ์ที่สามารถตรวจสอบราคาที่ดินได้โดยเสียค่าธรรมเนียมและอาจเสียภาษีมากกว่า

จึงใช้ราคาประเมินที่ดินเป็นหลักในการคำนวณภาษีและค่าธรรมเนียม โดยแต่ละรายการที่กรมธนารักษ์กำหนดมีดังนี้

รายการภาษีที่ถูกนับอยู่ในราคาประเมินที่ดินฉบับเดิม

  • ภาษีเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์โดยใช้ราคาประเมินที่ดินเป็นส่วนหนึ่งของรายได้จากการคำนวณภาษีของผู้ขาย
  • ภาษีจากกิจการหรือจากอากรแสตมป์ที่นำมาคำนวณเป็นราคาขายในการคำนวณอากรมีเงื่อนไขว่าราคาต้องไม่ต่ำกว่าราคาประเมินที่ดิน
  • ภาษีจากการประเมินราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งคำนวณเป็นราคาขายที่เจ้าของต้องจ่ายทุกปี

อย่างไรก็ตาม สำนักประเมินราคาที่ดินของกรมธนารักษ์ได้จัดทำเอกสารประกาศเปลี่ยนแปลงราคาประเมินที่ดินกรุงเทพมหานครฉบับใหม่พร้อมแบบประเมินราคาที่ดินจังหวัดเพื่อใช้ในปี พ.ศ. 2566 แต่คณะกรรมการระดับจังหวัดยังอยู่ระหว่างการนำเสนอ เนื่องจากได้มีการร่างราคาประเมินที่ดินสำหรับกรมที่ดินแล้ว คณะกรรมการฯ สามารถกำหนดราคาส่วนต่างเพิ่มเติมได้ ทำให้ต้องลงมติอนุมัติก่อนสิ้นปี 2565

วิธีเช็คราคาประเมินที่ดินออนไลน์ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

ผู้ซื้อที่ต้องการราคาประเมินที่ดินในปี 2565 สามารถทำได้ที่เว็บไซต์ของกรมธนารักษ์ ซึ่งจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการประเมินที่ดินใด ๆ

วิธีตรวจสอบราคาประเมินที่ดินแบบมีโฉนด

ขั้นตอนการประเมินราคาที่ดินของกรมธนารักษ์ที่มีโฉนดสามารถปฏิบัติได้ดังนี้

เข้าสู่เว็บไซต์ เว็บไซต์กรมธนารักษ์

  • คลิกปุ่มหมายเลขโฉนดแรก
  • เมื่อคลิกที่ปุ่มเลขที่โฉนดจะเห็นช่องข้อมูลทางด้านซ้ายมือสุด
  • กรอกข้อมูลลงในช่องว่าง เมื่อเสร็จแล้วให้คลิกที่ปุ่มค้นหา

ระบบจะสรุปผลการประเมินราคาที่ดินของกรมธนารักษ์ โฉนดที่ดินของคุณโดยสังเขป หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม คุณสามารถคลิกดูรายละเอียดด้านล่าง

วิธีตรวจสอบราคาประเมินที่ดินไม่มีโฉนด

ขั้นตอนการคำนวณราคาประเมินของกรมธนารักษ์ที่ไม่มีโฉนดที่ดินหรือเลขที่ที่ดิน มีดังนี้

เข้าสู่เว็บไซต์ เว็บไซต์กรมธนารักษ์

  • มองแถบค้นหาราคาประเมิน ให้คลิกปุ่ม เลขที่โฉนด อันแรกสุด
  • เมื่อคลิกปุ่มเลขที่โฉนด จะเห็นช่องกรอกข้อมูลทางซ้ายมือสุด
  • กรอกข้อมูลบ้านพัก ถนนในต่างจังหวัดที่ต้องการทราบราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์
  • เมื่อพิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้วกดปุ่มคลิก Enter เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการค้นหา

ราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ทั่วประเทศขยับขึ้น 6.21-8.93%

กรมธนารักษ์ประกาศใช้รายการราคาประเมินที่ดินหรืออาคารใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป โดยราคาประเมินที่ดินมีอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาเฉลี่ยทั่วประเทศประมาณร้อยละ 8.93 และราคาประเมินอาคารเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ประธานคณะกรรมการจังหวัดในแต่ละจังหวัดได้ประกาศการประเมินมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติการประเมินมูลค่าทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน พ.ศ. 2562 ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2564 แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

โดยจะเริ่มใช้บัญชีดังกล่าวในวันที่ 1 มกราคม 2566 เพื่อลดภาระให้กับประชาชนที่ต้องใช้ราคาประเมินเป็นหลักในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมภาษีและค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม

  • ราคาประเมินใหม่จะใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569ราคาประเมินอาคารปรับขึ้น ราคาประเมินที่ดินก็เพิ่มขึ้นเช่นกันแต่อัตราการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 8.93 เท่านั้น อัตราการเปลี่ยนแปลงราคาสำหรับอาคารเพิ่มขึ้นประมาณ 6.21 เปอร์เซ็นต์
  • โดยกรุงเทพมหานครมีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาประเมินที่ดินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 2.76 และราคาประเมินอาคารเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 4.60
  • ในปีภาษี 2566 จะใช้ราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรอบระยะเวลาบัญชีปี 2566-2569 เป็นฐานในการคำนวณภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ซึ่งจากข้อมูลย้อนหลังพบว่า จดทะเบียนเฉลี่ยปีละประมาณ 7 ล้านแปลง คิดเป็น 20% ของจำนวนแปลงที่ดินทั้งหมด และราคาดังกล่าวยังนำไปใช้ในการจัดเก็บภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

หากประชาชนผู้ถือกรรมสิทธิ์ใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรหรือเป็นที่อยู่อาศัย (บ้านหลังใหญ่) ที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท จะได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งถือว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบแต่จะได้รับผลกระทบจากประชาชนที่มีที่ดินจำนวนมากและมีบ้านมากกว่า 1 หลัง สำหรับผู้เช่าที่ราชพัสดุยังต้องเสียภาษี สิ่งนี้ไม่ได้รับการยกเว้น