การขายฝากที่ดินเป็นรูปแบบหนึ่งของการทำธุรกรรมทางกฎหมายสำหรับการซื้อที่ดิน กรรมสิทธิ์ในที่ดินจะเป็นของผู้ซื้อทันทีที่ไปจดทะเบียนนิติกรรมขายที่สำนักงานที่ดินในระหว่างนี้ผู้รับฝากขายจะให้โอกาสผู้ขายในการไถ่ถอนที่ดิน ภายในระยะเวลาที่กำหนดผู้ซื้อจะได้รับดอกเบี้ยสูงถึง 15% ต่อปี และจะได้รับเงินต้นคืนทันทีเมื่อไถ่ถอน โดยส่วนใหญ่ผู้รับมอบจะมอบสวัสดิการต่างๆ ดอกเบี้ยถูกหรือให้วงเงินสูง เป็นต้น เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้รับฝากขาย

ข้อดีของการขายฝากคืออะไร?

  • การขายที่ดินโดยการฝากขายจะทำระหว่างผู้ขายฝากและผู้รับซื้อฝาก ณ สำนักงานที่ดิน จึงมีความน่าเชื่อถือและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
  • อนุมัติเร็วกว่าการขอสินเชื่อกับธนาคาร
  • ได้วงเงินดีกว่าการจำนอง
  • สัญญาซื้อขายฝากที่ดิน ไม่ต้องเช็คประวัติ แบล็คลิสต์ เครดิตทางการเงิน หรือ Statement
  • หากพ้นกำหนดเวลาไถ่แล้วผู้รับฝากขายไม่สามารถไถ่ถอนที่ดินได้ ผู้ขายฝากอาจทำสัญญาขยายเวลาไถ่ออกไปได้ไม่เกิน 10 ปี เว้นแต่คู่สัญญาจะตกลงกันเป็นอย่างอื่นผู้ขายฝากยังคงครอบครองที่ดินอยู่

5 ขั้นตอนในการขายฝากที่ดิน

1.ประเมินราคาที่ดิน พร้อมตีราคา ผู้รับซื้อฝากทำการประเมินราคาที่ดิน พร้อมตีราคา ที่ต้องการขายฝาก

2.ทำนิติกรรมสัญญาขายฝาก ณ สำนักงานที่ดิน ผู้รับซื้อฝากและผู้ขายฝาก เจรจาทำความตกลงราคาที่ต้องการ และการทำนิติกรรมสัญญาขายฝาก ณ สำนักงานที่ดิน

3.ผู้ขายฝากได้รับเงิน หลังจากจดทะเบียน ผู้ขายฝากได้รับเงิน และ ผู้รับซื้อฝากจะได้กรรมสิทธิ์ที่ดินทันที หลังจากจดทะเบียน

4.อัตราดอกเบี้ย ให้ผู้ขายฝาก ไม่เกิน 15% ต่อปี ผู้รับซื้อจะกำหนดอัตราดอกเบี้ย ให้ผู้ขายฝาก ไม่เกิน 15% ต่อปี ตามกฎหมาย

5.ชำระดอกเบี้ย จนครบระยะเวลาไถ่ถอน ผู้ขายฝากจำเป็นต้องชำระดอกเบี้ยทุกเดือน จนครบระยะเวลาไถ่ถอน ตามที่สัญญาขายฝากกำหนด โดยผู้ขายฝากสามารถไถ่ถอนได้ ณ สำนักงานที่ดิน

เอกสารที่ใช้ในขั้นตอนขายฝากที่ดิน

  • โฉนดที่ดินฉบับจริง
  • บัตรประชาชน
  • ทะเบียนบ้าน
  • ใบทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
  • ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)

ค่าธรรมเนียมการขาย ณ สำนักงานที่ดิน

  • ค่าธรรมเนียม 2% จากราคาประเมินที่ดิน
  • ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย คำนวณจากราคาประเมินที่ดิน
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% จากราคาประเมินที่ดิน หรือราคาขายฝาก ขึ้นอยู่ว่าราคาใดสูงกว่า (เฉพาะการขายฝากที่อยู่ในหลักเกณฑ์)
  • ค่าอากรแสตมป์ 0.5% จากราคาประเมินที่ดินหรือราคาขายฝาก ขึ้นอยู่ว่าราคาใดสูงกว่า แต่หากเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว จะได้รับยกเว้นค่าอากรแสตมป์

สัญญาซื้อขายที่ดิน สิ่งที่ควรมีในสัญญา

กฎหมายกำหนดให้ทำสัญญาขายที่ดินต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน พนักงานเจ้าหน้าที่จะระบุไว้ในสารบัญขอจดทะเบียนว่าเป็นการขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือขายบ้าน

โดยสัญญาซื้อขายที่ดินต้องมีสาระสำคัญดังนี้

  1. สัญญาขายฝากที่ดิน จะต้องระบุชื่อและที่อยู่คู่สัญญา
  2. สัญญาขายฝากที่ดิน มีการแจกแจงรายการและลักษณะแห่งทรัพย์สิน ที่ดินที่จะขายฝาก
  3. สัญญาขายฝากที่ดิน จำเป็นต้องมีการแจกแจงราคาที่ขายฝาก
  4. สัญญาขายฝากที่ดิน จำเป็นต้องมีจำนวนสินไถ่
  5. สัญญาขายฝากที่ดิน ต้องระบุวันที่ขายฝากและวันที่ครบกำหนดไถ่

ข้อกำหนดและเงื่อนไขการขายฝาก

ในการทำสัญญาขายฝากนั้น สิ่งแรกที่เราต้องศึกษาเลยก็คือ “ข้อกำหนด” และ “เงื่อนไข” เกี่ยวกับการขายฝากนั่นเองค่ะ ซึ่งตาม พระราชบัญญัติ คุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดิน เพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2562 จะมีเงื่อนไขที่สำคัญดังนี้

  • การขายฝากต้องทำเป็นหนังสือและต้องไปจดทะเบียนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ที่กรมที่ดิน มิฉะนั้นจะถือว่าสัญญาซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะ
  • สามารถกำหนดราคารับซื้อคืนให้สูงกว่าราคาขายฝากได้ แต่ต้องไม่เกิน 15% ต่อปี และต้องคำนวณตั้งแต่วันที่ขายจนถึงวันครบกำหนด
  • ระยะเวลาไถ่ถอนต้องไม่ต่ำกว่า 1 ปี หรือมากกว่า 10 ปีเพื่อป้องกันผู้ซื้อกำหนดระยะเวลาไถ่ถอนทรัพย์สินที่ขายคืนสั้นจนผู้ขายไม่สามารถไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากได้ทันกำหนด และ คุ้มครองผู้ซื้อกำหนดระยะเวลาไถ่ถอนทรัพย์สินที่ขายฝากเป็นเวลา เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี

ผู้ขายฝากมีสิทธิใช้ทรัพย์สินที่ขายไปในระหว่างการฝากขาย ผู้รับฝากขายสามารถนำไปใช้เพื่ออยู่อาศัยหรือทำการเกษตรได้จนกว่าจะหมดสิทธิไถ่ถอนตามที่ตกลงกันในสัญญาฝากขาย

ข้อควรรู้ ก่อนเซ็นสัญญาขายฝากที่ดิน

  • การทำสัญญาซื้อขายที่ดินต้องทำต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินที่กรมที่ดิน
  • ในวันที่ทำสัญญา “ผู้ขายฝาก” จะโอนกรรมสิทธิ์ให้ “ผู้ซื้อฝาก” ทันที
  • ผู้รับฝากขายจะสามารถไถ่ถอนที่ดินจากผู้รับฝากขายได้ภายในระยะเวลาที่ตกลงในสัญญา สัญญาต้องไม่เกิน 10 ปีสำหรับอสังหาริมทรัพย์ และไม่เกิน 3 ปีสำหรับสังหาริมทรัพย์
  • ผู้ฝากซื้อจะได้รับดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนสูงถึง 15% ต่อปี
  • ครบกำหนดสัญญาฝากขายที่ดิน ผู้ขายฝากยังไม่สามารถไถ่ถอนที่ดินได้ สามารถขอเจรจาต่อสัญญาได้จนจบกฎหมาย

ไถ่ถอนที่ดินจากการขายฝาก ต้องทำอย่างไร

สำหรับขั้นตอนการไถ่ถอนที่ดินจากการขายฝากมีเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมดังนี้

ขั้นตอนในการไถ่ถอนที่ดิน

  • เมื่อใกล้ถึงกำหนดเวลาไถ่ที่ดินผู้ขายฝากต้องไม่มีภาระในที่ดินที่ขายฝาก
  • ผู้ขายฝากจะต้องส่งหนังสือแจ้งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงผู้ขายฝาก เพื่อให้ผู้ขายทราบระยะเวลาไถ่ถอนและจำนวนเงินที่ไถ่ถอน ต้องแจ้งก่อนวันครบกำหนดอย่างน้อย 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน
  • และในกรณีที่ “ผู้ซื้อฝาก” ไม่ได้ดำเนินการแจ้งเป็นหนังสือไปยัง “ผู้ขายฝาก” ภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือ ไม่ได้ส่งสำเนาสัญญาขายฝากไปด้วย ให้ “ผู้ขายฝาก” มีสิทธิไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากได้ภายในระยะ 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่ครบกำหนดไถ่ถอนที่ดิน ตามที่ระบุไว้ในสัญญาขายฝาก โดย “ผู้ขายฝาก” มีหน้าที่ชำระสินไถ่ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในสัญญา

เอกสารที่ใช้ในวันไถ่ถอนที่ดิน

  • โฉนดที่ดินฉบับจริง
  • บัตรประชาชน
  • ทะเบียนบ้าน
  • ใบทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
  • ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
  • ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนไถ่ถอนที่ดิน
  • เรียกเก็บประเภทไม่มีทุนทรัพย์ แปลงละ 50 บาท
  • อากรแสตมป์ใบรับ เรียกเก็บร้อยละ 50 สตางค์ คํานวณจากราคาทุนทรัพย์ในการจดทะเบียน